สวนดุสิตโพลชี้ผลวิจัยล่าสุด บัญชี แพทย์ บริหาร คอมฯ วิศวะ ครองแชมป์ได้งานสูง
- ระบุเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ตัวแปรในการตัดสินใจเรียน-เข้าสู่อาชีพ
- เผยโลกไร้พรมแดนสร้างโอกาสใหม่ แอนิเมชั่น-บันเทิง จุดพลุเส้นทางอินเทรนด์
- วงในกระตุ้นการตื่นตัว โลกเข้าสู่สังคมที่ไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนล้วนต้องการการพึ่งพาและเชื่อมโยงกัน
สวนดุสิตโพลจับกระแส
อาชีพอิน-เอ้าท์เทรนด์
รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต (มสด.)
กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สวนดุสิตโพล ม.ราชภัฏสวนดุสิต
ได้สำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับกลุ่มสาขาอาชีพต่างๆ
ที่มีต่อสาขาวิชาที่เรียนแล้วจะได้งานทำ
โดยสำรวจจากผู้ประกอบการผู้ใช้บัณฑิตที่กระจายตามสาขาวิชาต่างๆ,
นักวิชาการที่มีความสำคัญในการวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของชาติ,
กลุ่มนายธนาคารซึ่งมีผลต่อการให้กู้ยืมเงิน, นักปฏิบัติการ
ผู้บริหารระดับกลาง ฝ่ายบัญชี หัวหน้าฝ่ายพัสดุการคลังนโยบาย ฯลฯ รวม 1,376
ตัวอย่าง
เนื่องจากคนกลุ่มนี้ไม่ได้มองธุรกิจของตัวเองแค่วันนี้ แต่มองไปถึง 3-5
ปีข้างหน้า
เพื่อสะท้อนออกมาว่าคนกลุ่มนี้ต้องการคนทำงานประเภทใดเพื่อให้สอดคล้องกับ
ความต้องการของตลาดแรงงาน
และเป็นส่วนหนึ่งที่ม.ราชภัฎสวนดุสิตนำมาปรับปรุงแก้ไขหลักสูตรต่างๆ
นอกจากนี้ เป็นการแนะแนวทางให้กับอาจารย์แนะแนว 200 กว่าคนทั่วปริมณฑล
เนื่องจากครูแนะแนวจะต้องดูเรื่องการบริหารความเสี่ยงการบริหารอนาคต
เพราะการแนะแนวต่อไปในอนาคตจะต้องประกันความเสี่ยงว่าเรียนแล้วจะต้องไม่ตกงาน และเพราะความต้องการแรงงานมีความเปลี่ยนแปลงไปตามความต้องการของตลาด
และภาวะเศรษฐกิจ
ผลการสำรวจ 10
1. การบัญชี – 19.71%
2. แพทยศาสตร์ – 18.75%
3. บริหารธุรกิจ – 12.02%
4. คอมพิวเตอร์ – 10.10%
5. วิศวกรรมศาสตร์ – 10.10%
6. การตลาด – 8.65%
7. นิติศาสตร์ – 8.17%
8. พยาบาลศาสตร์ – 4.81%
9. การจัดการ – 4.33%
10. รัฐศาสตร์ – 3.36%
รศ.ดร.สุขุม กล่าวเสริมว่า เหตุที่สาขาการบัญชีอยู่ในอันดับ 1
เนื่องจากการทำธุรกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารธุรกิจ การจัดการ
การประกอบกิจการไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ก็ต้องใช้บุคลากรทางด้านบัญชีทั้งสิ้น
นอกจากนี้ หากธุรกิจมีนโยบายดีเท่าใดแต่ก้นถุงรั่ว
หรือไม่มีการคิดเรื่องความคุ้มทุน ค่าใช้จ่าย ก็จบ
สำหรับแพทย์นั้นถือว่ามีการขาดแคลนบุคลากร
แต่คนที่จะเรียนได้ต้องมีสติปัญญาที่ดี
และต้องมีค่าใช้จ่ายในการเรียนที่สูงถ้าไม่ได้ทุนรัฐบาลซึ่งแพทย์และพยาบาล
อยู่ในอันดับทอปเท็นตลอด ส่วนการตลาดหรือบริหารจริงๆ แล้วต้องยอมรับว่า
ความต้องการด้านบุคลากรด้านการตลาดมีมาก แม้กระทั่ง
มหาวิทยาลัยยังต้องมีฝ่ายการตลาดของตัวเองเพราะยุคของการแข่งขันมีมากขึ้น
ด้านคอมพิวเตอร์
ปัจจุบันเนื่องจากมีการใช้เทคโนโลยีมากขึ้นทำให้ต้องอาศัยคนกลุ่มนี้
สำหรับนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ ด้วยความที่โลกอยู่ในยุคของการแข่งขัน
การแย่งชิงทรัพยากรที่มีจำนวนจำกัด เรื่องของกฎหมาย
การปกครองเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญ
โดยหากเปรียบเทียบผลวิจัยระหว่างปีที่ผ่านมากับปีนี้เห็นการเปลี่ยนแปลง คือ
นิติศาสตร์ และรัฐศาสตร์เดิมอยู่ต่ำกว่าทอปเท็น
แต่ที่สามารถก้าวขึ้นอันดับทอปเท็นได้เชื่อว่าเป็นเพราะปัจจุบันเกิดกรณี
ความขัดแย้งที่ต้องอาศัยด้านกฎหมายมากขึ้น
ในขณะที่ปีที่แล้วการเรียนสาขาสิ่งแวดล้อมมีความชัดเจนมากขึ้นก็ติดอยู่ใน
อันดับ
นิเทศ-ถา'ปัด-มัณฑนศิลป์-อักษร-พุทธ
เรียนหดเหตุเข้าอุตสาหกรรมยาก
รศ.ดร.สุขุม
ยังได้แสดงความคิดเห็นถึงคณะหรือสาขาที่เรียนแล้วส่งผลต่อการหางานว่า
ม.ราชภัฎสวนดุสิตยังได้นำข้อมูลคณะหรือสาขาที่เดิมเคยอยู่ในอันดับที่ได้รับ
ความนิยมแต่ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงมาสอบถามกับกลุ่มผู้ประกอบการในสาขาๆ
นั้นถึงเหตุผล
โดยคณะที่เห็นการลดลง คือ นิเทศศาสตร์
ซึ่งมีการสอบถามกองบรรณาธิการของทั้งสำนักพิมพ์ และสถานีโทรทัศน์
พบว่าแม้ว่าปริมาณผู้เรียนจะมีมาก
แต่คนในวงการไม่มีการเกษียณอายุการทำงานทำให้ตลาดแรงงานแคบ
ส่วน
สถาปัตยกรรม มัณฑนศิลป์ อักษรศาสตร์
ก็มีการเรียนลดลงโดยปริยายทั้งที่คนมองว่าภาษาไทยมีการใช้ไม่ถูกต้อง
เนื่องจากปัจจุบันการแข่งขันในตลาดมีสูงและสภาพเศรษฐกิจแบบนี้คนมองเรื่อง
ของปากกัดตีนทีบมากกว่า ทำให้การมองเรื่องสุนทรียภาพและศิลปะลดลง
หรือทางด้านพุทธศาสตร์ก็ได้รับผลกระทบแม้ว่าตลาดจะมองว่าคนขาดด้านจริยธรรม
กันมาก แต่เรียนทางด้านนี้แล้วจบออกมาก็ไม่มีงานทำ
สำหรับการแก้ปัญหาในเรื่องของหลักสูตรหรือสาขาที่ได้รับความนิยมลดลงนั้น
สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษามีกฎกำหนดไว้อยู่แล้วเมื่อครบ 5
ปีหลักสูตรจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง
เนื่องจากหากไม่เปลี่ยนจะไม่ทันกับความต้องการของตลาด ดังนั้น
วิทยาการความรู้ต่างๆ จะต้องสอนเพื่อวันนี้ไม่ใช่วันพรุ่งนี้
ธรรมศาสตร์ชี้บัญชีแชมป์
แต่ต้องมีคุณภาพ-ได้ภาษา
รศ.เกศินี วิฑูรชาติ คณบดี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า การที่ผลการสำรวจออกมาว่าบัญชีอยู่ในอันดับ
1 ของสาขาที่เป็นที่ต้องการของตลาด เพราะปัจจุบันบัญชีอยู่ในภาวะขาดแคลน
ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเล็กหรือใหญ่ก็ต้องการบุคลากรทางด้านนี้
หรือแม้แต่ธุรกิจที่กำลังปิดตัวคนที่จะถูกเลิกจ้างเป็นคนสุดท้ายก็คือนัก
บัญชี ถือว่าเป็นอาชีพที่สำคัญมาก
นอกจากนี้
จากที่เคยคุยกับบริษัทผู้ตรวจสอบบัญชียังพบว่าคนที่จบด้านนี้ไม่เพียงพอ
โดยเฉพาะบัณฑิตที่ผลิตจากมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่
แม้ว่าจะมีการให้มหาวิทยาลัยผลิตบัณฑิตป้อนสู่ตลาดมากขึ้น
แต่ไม่สามารถทำได้ เพราะไม่มีนโยบายผลิตบัณฑิตระดับปริญญาตรีเพิ่ม
และยังเห็นว่าการผลิตบัณฑิตระดับปริญญาตรีมหาวิทยาลัยเอกชนสามารถทำได้
ธรรมศาสตร์จึงมีเป้าหมายไปผลิตบัณฑิตในระดับปริญญาโทและเอกในทุกสาขาวิชาแทน
เพราะปริมาณบุคลากรของคณะมีจำนวนจำกัด
และตลาดต้องการบัณฑิตที่มีคุณวุฒิทางการศึกษาสูงขึ้น
ส่วน
สาขาแพทย์ศาสตร์มีความจำเป็นแน่นอนอยู่แล้ว
เนื่องจากยังไม่พอกับความต้องการโดยเฉพาะชนบท
ส่วนวิชาชีพทางด้านกฎหมายก็มีความจำเป็นมากขึ้น
เนื่องจากธุรกิจปัจจุบันต้องมีนักกฎหมายมากขึ้น ซึ่งทั้ง 3
สาขาวิชานี้มีความสำคัญมากขึ้นทุกที
อย่างไรก็ดี
นักบัญชีที่ตลาดต้องการ คือ นักบัญชีที่มีคุณภาพเป็นสำคัญ
ซึ่งปัจจุบันคนที่จะมาทำงานด้านบัญชีไม่ใช่มีแค่ความรู้ทางด้านบัญชีเท่า
นั้น ยังต้องมีองค์ความรู้ด้านภาษาที่ 2 และ 3 ด้วย
เพราะปัจจุบันธุรกิจในไทยมีชาวต่างชาติมาลงทุนมากขึ้น ดังนั้น
การรู้เรื่องของภาษาเป็นปัจจัยสำคัญทั้ง อังกฤษ ญี่ปุ่น จีน
และเชื่อว่าในอนาคตอาจจะขยายไปยังภาษาอื่นๆ
บันเทิง-แอนิเมชั่น นำโด่ง
ผุดหลักสูตรตอบโจทย์ตลาด
ปีเตอร์ กัน ประธานที่ปรึกษาหลักสูตร นิเทศศาสตร์มหาบัณฑิต
สาขาการบริหารธุรกิจบันเทิงและการผลิต มหาวิทยาลัยกรุงเทพฯ
ในฐานะที่เป็นผู้คร่ำหวอดในวงการบันเทิงที่ผันตนเองโดยการนำประสบการณ์จริง
มาถ่ายทอดผ่านชั้นเรียน กล่าวว่า ปัจจุบันองค์ความรู้ผ่านช่องทางการศึกษา
โดยเฉพาะนิเทศศาสตร์ได้มีการปรับตัวสนองตอบความต้องการของตลาดมากขึ้น
พบว่าความนิยมในอาชีพบันเทิงสูงมากเติบโตตามอุตสาหกรรมภาพยนตร์และกระแสความ
นิยมจากสหรัฐอเมริกา
จะเห็นว่าเป้าหมายของการเปิดหลักสูตรดังกล่าวของ ม.กรุงเทพ
ต้องการจะสร้างศักยภาพและดึงจุดเด่นของผู้เรียนให้มีมากขึ้น
สอดรับกับการก้าวสู่โลกดิจิตอลเจาะกลุ่มตลาดแรงงานที่หลากหลายมากขึ้น
นับเป็นโอกาสและความท้าทายที่วงการบันเทิงต้องสร้างบุคลากรใหม่เพื่อมาตอบ
สนองกลุ่มเป้าหมายให้ได้
หลังจากเปิดหลักสูตรดังกล่าวมา 1 ปี พบว่า
อายุเฉลี่ยของนักศึกษาที่เข้ามาเรียนมีความหลากหลายตั้งแต่อายุ 20- 80 ปี
ซึ่งแต่ละคนต่างมีประสบการณ์จากการทำงานในสาขาอาชีพอื่นๆ ที่ไม่ใช่การแสดง
แต่ทุกคนมุ่งหวังจะนำความรู้ที่ได้มาปรับใช้ในธุรกิจของตนเพื่อบริหารจัดการ
ศักยภาพของตนเอง
เนื่องจากการแข่งขันในธุรกิจมีสูงหากองค์กรใดมีการจัดการอย่างชัดเจนย่อมทำ
ให้เกิดรายได้มหาศาลกลับมา
ข้อมูลจาก : http://www.unigang.com/Article/960
การทำงานไม่ว่าจะสาขาวิชาชีพใด ก็ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญทั้งนั้น อาชีพแต่ละด้านที่ว่ามานั้น ก็เป็นไปตามกระแสในแต่ละช่วง เราก็ควรพิจารณาไตร่ตรองตามความเหมาะสมกับสิ่งที่เราชอบ และเลือกทำตามแต่ความสุขของแต่ละคน เพื่อที่จะไม่นึกเสียดายหรือเสียใจทีหลัง
ฝากด้วยนะค่ะ ^ ^